บทที่ 7 ตอนที่ 7
“ก็... คุณกำลังจะลักพาตัวฮัสซันไปจากฉันยังไงล่ะ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ”
เขามองหล่อนอยู่หลายวินาที ก่อนจะหัวเราะเยาะออกมา
“ฉันว่าเธอดูหนังมากไปหน่อยมั้ง”
“ไม่ต้องมาทำเป็นปฏิเสธเลย ฉันรู้หมดแล้วนะว่าคุณคิดจะทำอะไรน่ะ รวมถึงการที่คุณเอาเงินไปหว่านปิดปากทนายความทุกคนในจังหวัดนี้ด้วย”
เขาเอียงคอแข็งแรงเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเข้ามาหาหล่อนทีละก้าวทีละก้าว ในขณะที่หล่อนต้องก้าวถอยหลังหนีตามสัญชาตญาณเช่นเดียวกัน
“ฉันไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น”
“อย่ามาโกหกเลย”
“คนระดับฉันไม่จำเป็นต้องโกหก เธอก็น่าจะรู้นะ”
ในที่สุดแผ่นหลังของหล่อนก็ชนเข้ากับต้นไม้ต้นหนึ่ง และหมดทางหนี เขาก้าวเข้ามาหยุดตรงหน้า ระยะห่างระหว่างสองร่างแทบไม่มีเลย หัวใจสาวเต้นโครมคราม
“ถะ... ถอยออกไปนะ”
ใบหน้าหล่อจัดที่รวบรวมเอาส่วนประกอบชั้นเลิศมาตกแต่งจนแสนจะงดงามโน้มเข้ามาหา กลิ่นลมหายใจของเขาช่างหอมหวาน และริมฝีปากของเขาก็สวยเหลือเกิน
“อย่า... เข้ามานะ”
เขาไม่ขยับออกห่าง ในขณะที่หล่อนก็หนีไปไหนไม่ได้เหมือนกัน เพราะสองแขนของเขาเท้าเอาไว้กับต้นไม้ ขังร่างสาวเอาไว้ในกรงแขนอย่างเผด็จการ
“ทำไมต้องทำท่าทางตื่นกลัวแบบนี้ด้วย เธอไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ที่ไม่เคยมือชายสักหน่อย” เซรีมตั้งข้อสังเกต ก่อนจะยิ้มดูแคลนออกมา “หรือนี่คือวิธีเรียกร้องความสนใจของเธอ”
“นี่... คุณพูดว่าอะไรเนี่ย”
“ฉันกำลังพูดถึงวิธีเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายของเธอยังไงล่ะ มะลิ กรองอักษร”
ความอับอายจากคำพูดดูแคลนของเจ้าชายที่น่าจะเป็นคนเดียวที่ทำฟาร์มสุนัขเอาไว้ในปากทำให้หล่อนตัวสั่นเทิ้ม หล่อนกำมือแน่น และยกจะซัดเข้าที่หน้าหล่อจัดของเซรีม แต่คราวนี้เจ้าชายหนุ่มรู้ทัน เขาเบี่ยงหน้าหลบ แต่รวบข้อมือของหล่อนเอาไว้ พร้อมกับจับหักไพล่ไปด้านหลังแรงๆ
“โอ๊ย... ปล่อยนะ ฉันเจ็บ”
หล่อนพยายามดิ้นรน น้ำตาคลอด้วยความเจ็บจนกระดูกแทบหักละเอียด
“อย่าทำอะไรเดิมๆ อีก เพราะฉันรู้ทัน”
มะลิกัดปากแน่น มองคนตัวโตด้วยความโมโห “ปล่อยฉัน และคุณก็พาคนของตัวเองกลับไปซะ อย่ามาวุ่นวายกับพวกเราอีก”
“ฉันไม่ได้มาวุ่นวายกับเธอ แต่ฉันกำลังจะพาฮัสซันกลับไปยังสถานที่ที่เขาควรจะอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่ที่บ้านสับปะรังเคที่เธอยัดเยียดให้เขาอยู่”
น้ำตาแห่งความคับแค้นใจไหลรินออกมา หล่อนกัดปากแน่น มองเขาอย่างโกรธจัด
“ถึงบ้านของฉันมันจะเก่า มันจะเล็กแค่ไหน แต่ฮัสซันก็มีความสุขที่ได้อยู่กับฉัน”
“เธอคิดไปเองมากกว่า”
“ไม่... ฉันไม่ได้คิดไปเอง ฮัสซันอยากอยู่กับฉัน”
หล่อนเชิดหน้าโต้เถียงทั้งน้ำตา และแน่นอนว่าการเดิมพันในครั้งนี้คือฮัสซัน ซึ่งหล่อนจะยอมแพ้ไม่ได้
“เอาละ ฉันเบื่อหน่ายที่จะเถียงกับผู้หญิงบ้าๆ อย่างเธอแล้ว”
เขาปล่อยมือของหล่อน และกำลังจะถอยออกห่าง ซึ่งนั่นก็เท่ากับเปิดโอกาสให้คนที่กำลังจ้องจะเอาคืนอยู่ประเคนหมัดเล็กใส่มุมปากข้างเดิมอีกครั้ง
“โอ๊ย...”
เซรีมเซไปข้างหลังเล็กน้อย แต่แค่เสี้ยววินาทีเดียว เขาก็ตั้งหลักได้ และคว้าแขนเรียวของคนที่กำลังจะหนีเอาไว้ได้ทัน เขาจับหล่อนกระแทกเข้ากับต้นไม้ จากนั้นก็ประกบร่างเข้าไปหาอย่างแนบแน่น หน้าตาของหล่อนเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจนน่าสงสาร แต่เขาโกรธจัดจนระงับโทสะไม่อยู่เสียแล้ว
“เธอจะได้รู้ว่าไม่ควรต่อยหน้าเจ้าชายทะเลทรายซ้ำเป็นครั้งที่สอง”
ยังไม่ทันที่มะลิจะซึมซับกับวาจาเดือดดาลของเขาได้ทั้งหมด ปากร้อนแสนกระด้างก็บดขยี้ลงมาอย่างรุนแรง ดุดัน และประกาศความเป็นใหญ่
หล่อนผลักไสเขา เอามือดันแผงอกกว้างแต่เรือนกายทรงพลังที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามเนื้อไม่ขยับเขยื้อนเลย และเขาก็ยิ่งเพิ่มความดุดันของแรงบดขยี้มากยิ่งขึ้น
“อื้อ...”
ความรู้สึกของหล่อนในตอนนี้มันเต็มไปด้วยความสับสน ความรู้สึกมากมายถล่มอัดอยู่ภายในอก แต่มีความรู้สึกหนึ่งที่ค่อยๆ เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว ใช่... มันเพิ่มขึ้นรวดเร็วจนน่ากลัวก็คือ...
เสียวซ่านแสนวิเศษ
พระเจ้า...?
มะลิที่พยายามจะต่อต้านจุมพิตลงทัณฑ์จากเจ้าชายแห่งแดนทะเลทราย แต่แรงทัดทานกลับถูกแรงบดขยี้กลืนกินไปจนหมด ตอนนี้รู้สึกราวกับกำลังเดินหลงอยู่ในป่าแห่งหนึ่ง ป่าที่เต็มไปด้วยความรัญจวนที่แสนมหัศจรรย์
“อ๊า...”
เสียงครางของหล่อนดังขึ้นอีกแล้ว มันน่ารังเกียจมากที่หลุดเสียงครางแบบนั้นออกไป แต่หล่อนไม่อาจจะต่อสู้กับความรู้สึกเสียวกระสันยามที่ถูกลิ้นสากบุกรุกเข้าไปในอุ้งปากสาวได้
หล่อนสะท้านยะเยือก เนื้อตัวสั่นเทา สองมือที่เคยดันหน้าอกกว้างเอาไว้ ตอนนี้ยกขึ้นโอบรอบลำคอแกร่งเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง และปากอิ่มก็เริ่มขยับตอบ
“อืมมมม”
เสียงครวญครางของเจ้าชายทะเลทรายดังแว่วมากับสายลม พร้อมๆ กับมือใหญ่ที่กดสะโพกอวบให้แนบชิดกับความแข็งแกร่งกำยำมากยิ่งขึ้น
สองร่างบดเบียด ปากยังประกบกันแนบแน่น แลกจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่ม วินาทีแรก เซรีมแสดงความเป็นใหญ่ในการควบคุม แต่ตอนนี้การควบคุมสติของเขาจางหายไปในพริบตา เมื่อเจ้าของอุ้งปากหวานฉ่ำเริ่มจูบตอบ
อารมณ์ทางเพศพุ่งสูงลิ่ว และมันก็คงจะดีมากหากสามารถเนรมิตให้สวนเล็กๆ นี่กลายเป็นห้องนอนได้ และที่สำคัญที่สุด ผู้หญิงในอ้อมแขนต้องไม่ใช่เมียเก็บของน้าชาย
สติของเซรีมกลับคืนมา เขารีบผละออกห่างร่างอ่อนระทดระทวยของมะลิอย่างรวดเร็ว
มะลิเอามือจับต้นไม้ด้านหลังเอาไว้เพื่อพยุงตัวเอง ขณะเบิกตากว้างด้วยความตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ความเงียบที่เต็มไปด้วยความต้องการทางเพศครอบคลุมอยู่นานเกือบนาที ก่อนที่ผู้ชายที่ยกมือขึ้นเสยผมครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างเซรีมจะทำลายความเงียบที่แสนตึงเครียดนั้นออกมา
